SCHOOL NEWS
.
สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินมีอีกหนึ่งบทสัมภาษณ์น้องอารักษ์
นักเรียนจากคอร์ส Character Design หลักสูตรเต็ม และกำลังเรียนคอร์ส 3D Animation
อยู่ในขณะนี้ หัวข้อในการสัมภาษณ์ในวันนี้คือความแตกต่างระหว่าง 2D และ 3D
อย่ารอช้าไปอ่านกันเลย!!
.
Admin: สวัสดีค่ะ น้องอารักษ์หลังจากได้เรียนทั้ง 2D (Character Design) และ 3D
ช่วยเล่าความแตกต่างของทั้ง 2 อย่างให้ฟังได้ไหมคะ
อารักษ์: โดยรวม 2D และ 3D ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก อย่างการขึ้นตัวละครก็ต้องขึ้นโครงสร้าง
เหมือนกันแต่จะต่างกันตรงที่ มุมมอง 2D เป็นการมองแบบพื้นระนาบ หรือพื้นหน้ากระดาน แต่ 3D
จะต้องมองแบบ 360 องศามีมิติเพื่อให้เป็นรูปทรงที่ถูกต้อง
.
Admin: พอเรียน Character Design จบแล้วทำไมถึงตัดสินใจเรียน 3D Course ต่อคะ
อารักษ์: ผมชอบเล่นเกมและก็อยากทำงาน 3D ด้วยครับ
.
ก่อนขึ้นตัวละคร 3D จะสเก็ตเป็น 2D
.
Admin: ตอนนี้เรียน 3D ไปถึงไหนแล้วคะ
อารักษ์: ตอนนี้เรียนถึง 3D Animation กำลังใส่กระดูก แต่ยังไม่ถึงขั้นขยับหรือเคลื่อนไหวครับ
.
Admin: จำเป็นต้องเรียน 2D มาก่อนเรียน 3D ไหมคะ
อารักษ์: ไม่จำเป็นครับ แล้วแต่บุคคลเลย แต่แค่รู้ 2D ก่อนอาจจะทำให้เราเป็น 3D เร็วมากขึ้น
.
หลังจากนั้นก็ขึ้นพื้นผิว 3D
.
.
Admin: ความแตกต่างของลักษณะงานและความยากง่ายระหว่าง 2D และ 3D
อารักษ์: ต่างกันที่กระบวนการทำงาน อย่าง 2D จะวาดขึ้นมา แต่ 3D คือการทำจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ส่วนขึ้นตอนการหางานทั้ง 2 สายวิธีการไม่ต่างกันมาก แต่ตลาด 3D จะค่อนข้างกว้างกว่า มีหลายพาร์ทให้ทำเช่น งานขึ้นโมเดล การ Rigging การใส่การเคลื่อนไหว Animate ซึ่งส่วนใหญ่จะทำงานกันเป็นทีม
สำหรับคนที่มีความรู้เรื่อง 2D อยู่แล้ว ก็สามารถเอามาปรับใช้กับ 3D ได้จะทำให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น
และมีไอเดียในการทำงานเพิ่มมากยิ่งขึ้นโอกาสในการหางานก็มากขึ้นกว่าเราเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง
.
ถึงขั้นตอนการ Rigging ใส่กระดูกให้ตัวละครกันเถอะ!!
.
Admin: คิดว่าต้องเรียนและฝึกฝนถึงขั้นไหนถึงจะเริ่มเป็นที่ยอมรับในวงการหรือยึดเป็นอาชีพได้คะ
อารักษ์: 2D ต้องมีลายเส้นเป็นของตนเองและเป็นตามแบบที่ตลาดชื่นชอบด้วย
ส่วน 3D ในมุมมองผมคิดว่าถ้างานแนว Visual Effect ขึ้นอยู่ว่าเราทำให้เสมือนจริงได้มากน้อยแค่ไหน
.
Admin: ทำไม 2D ถึงเข้าถึงคนทั่วไปได้มากกว่า 3D
อารักษ์: ต่างกันที่ต้นทุน ความยากในการสร้างตัวละคร เช่น การวาด 2D มีแค่ดินสอกับกระดาษ
ก็สามารถสร้างตัวละครได้แล้ว ต่างจาก 3D ถ้าจะสร้างตัวละครนอกจากโปรแกรมที่ใช้ก็มีราคาสูงกว่าแล้ว
ความยากที่จะต้องใช้มุมมองการสร้างมิติให้ตัวละครนั้นต้องเช็คกันแบบ 360 องศา ใช้ความรู้ ความเข้าใจ
จดจำการใช้เครื่องมือ โปรแกรมในการทำงาน อย่างที่บอก 3D มีหลายส่วนหลายพาร์ทของงาน คน ๆ นึง
ไม่จำเป็นต้องทำตั้งแต่ต้นจนจบงาน แต่จำเป็นต้องรู้พื้นฐานของโปรแกรม
.
โมเดล 3D เสร็จสมบูรณ์ พร้อมนำไปใส่ระบบการเคลื่อนไหวต่อไป
.
.
Admin: สุดท้ายนี้ อยากให้น้องอารักษ์ฝากถึงเพื่อน ๆ ที่สนใจเกี่ยวกับ 2D และ 3D
อารักษ์: ฝากถึงเพื่อน ๆ ที่ยังกำลังตัดสินว่าจะเรียนอะไรดีหรือเรียน 3D ดีไหม
กลัผมว่าลองมาเรียนดูครับ ถ้ามีความสนใจแล้ว 3D ก็สนุกเหมือนกัน และเอาไปใช้งานได้หลากหลาย
ลองมาหาอะไรใหม่ ๆ ทำจะได้รู้ว่าชอบอะไร โดยส่วนตัวผมเรียน 2D และมาต่อ 3D มันก็ไปได้เร็วขึ้น
ได้เอาความรู้จาก 2D มาปรับใช้ได้เยอะ แต่ถ้าใครไม่มีความรู้ 2D มาเลยแล้วมาเริ่ม 3D
ก็เหมือนเป็นการฝึก 2D บางส่วนไปในตัวด้วยเช่นกัน
ต้องขอขอบคุณน้องอารักษ์ อารักษ์รัฏสำหรับข้อมูลดีดีในครั้งนี้นะคะ 🙂
.
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนอ่านบทสัมภาษณ์แล้วยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
ขอเชิญมาไขข้อข้องใจกับกิจกรรม KADOKAWA Special Day
มาวันเดียวได้ครบทุกคำตอบว่าทั้งสองสายแตกต่างกันอ่างไร
มีจุดเด่น จุดด้อย และเส้นทางอาชีพต่างกันอย่างไร
ถ้าอยากจะเดบิวเป็นมืออาชีพต้องทำอะไรบ้าง !
โดยมืออาชีพจากทั้งสองด้านมาร่วมคุยได้ประเด็น
- 2D และ 3D แตกต่างกันอ่างไร ความรู้ที่ต้องใช้ในการประกอบอาชีพ
- เส้นทางอาชีพ สามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง มีงานหรืออาชีพอะไรบ้าง
- รายได้ ? สามารถเลี้ยงตัวเองได้มั้ย ?
- และโอกาศในการประสบความสำเร็จ
พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสุดในงานเท่านั้น !! ที่ไม่บอกว่าเป็นอะไร อยากรู้ต้องมาดูเอง !!
.
จัดวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2017 เวลา 13.00 - 15.00 น.
.
ตารางกิจกรรม
12.00 - 13.00 ลงทะเบียน
13.00 - 14.00 แนะนำโรงเรียน หลักสูตร และการทำงานร่วมกับ Studio Bangkok
14.00 - 15.00 Special Talk ร่วมพูดคุยกับอาจารย์ Character Design และ 3D หัวข้อเส้นทางอาชีพ
.
สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่
https://docs.google.com/…/1wrr4F1FuWY7ICdMNu4-ZNJuFCND…/edit
.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแบบฟอร์มด้านล่าง หรือ
【FB MASSAGE】 : KADOKAWA
【LINE】 : kadokawa-ca
【☏】 : 026576150 / 0632257828